เราขอแสดงความยินดีกับการใช้หูฟังรุ่นใหม่ของคุณ! คุณสามารถใช้คู่มือนี้เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการจับคู่หูฟัง T2 กับอุปกรณ์ที่คุณต้องการ การชาร์จแบตเตอรี่ และการกู้คืนหูฟังกลับเป็นการตั้งค่าจากโรงงาน
สิ่งที่คุณควรพบในกล่องบรรจุภัณฑ์
- หูฟังเอียร์บัด T2 และเคสชาร์จ
- จุกหูฟังที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ทั้งสิ้น 4 ขนาด: XS, S, M & L
- สาย USB-C
- ผ้าไมโครไฟเบอร์
- คู่มือผู้ใช้
ก่อนเริ่มใช้งาน
⚠️ Sudio T2 มาพร้อมกับฟิล์มป้องกันที่ครอบคลุมขั้วต่อการชาร์จระหว่างหูฟังเอียร์บัดและเคสชาร์จ กรุณาถอดฟิล์มออก เพื่อเปิดตัวหูฟังเอียร์บัด
ตัวหูฟังส่วนมากจะยังมีแบตเตอรี่เริ่มต้นอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตามเราแนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มก่อนใช้งานครั้งแรก
การเปิด/ปิดการใช้งานของ T2
T2 จะเปิดขึ้นทันทีที่คุณเปิดเคสชาร์จขึ้น ไฟ LED บนหูฟังเอียร์บัดจะกะพริบ พร้อมเสียง 🔈 On.
เช่นเดียวกับการเปิดใช้งาน คุณสามรถการปิดใช้งานของ T2 ได้โดยการนำหูฟังใส่กลับลงในเคสชาร์จ
คุณยังสามารถใช้ระบบควบคุมแบบสัมผัสเพื่อเปิดหรือปิดหูฟังเอียร์บัดได้ โดยสัมผัสที่ปุ่มควบคุมค้างไว้ 5 วินาทีบนตัวหูฟังเอียร์บัดข้างใดข้างหนึ่ง
กานจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์
T2 จะเข้าสู่โหมดจับคู่กับอุปกรณ์อัตโนมัติเมื่อคุณเปิดเคสชาร์จขึ้น จากนั้นเปิดการตั้งค่าบลูทูธที่อุปกรณ์ของคุณ และรอการค้นหาการเชื่อมต่อกับหูฟัง T2 จากนั้นเลือกจับคู่กับ Sudio T2 คุณจะได้ยินเสียง 🔈 Connected บ่งบอกว่าการจับคู่อุปกรณ์สำเร็จ
การชาร์จแบตเตอรี่
หูฟัง T2 มีแบตเตอรี่ทั้งสิ้นสามก้อน โดยมีหนึ่งก่อนในเคสชาร์จและแบตเตอรี่หนึ่งก้อนในเอียร์บัดแต่ละข้าง
ตัวหูฟังเอียร์บัด T2 จะชาร์จแบตเตอรี่โดยอัตโนมัติเมื่อใส่หูฟังกลับเข้าเคสชาร์จ ซึ่งจะมีแสงไฟ LED ปรากฏขึ้นที่ตัวหูฟัง กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟิล์มป้องกันที่หุ้มขั้วต่อการชาร์จได้ถูกถอดออกก่อนแล้ว
การชาร์จเคสชาร์จของ T2 สามารถทำได้โดยการเชื่อมต่อเข้ากับสาย USB-C แสงไฟสีเหลืองจะปรากฏขึ้นขณะที่เคสกำลังตัวเคสกำลังชาร์จอยู่ (บริเวณที่ช่องเชื่อมต่อสายชาร์จ) เราแนะนำให้ใช้สาย USB-C จาก Sudio ที่รวมอยู่ในบรรจุภัณฑ์ แต่อาจใช้สาย USB-C ของบริษัทอื่นเพื่อเชื่อมต่อกับเคสชาร์จได้เช่นกัน
คืนค่า T2 เป็นการตั้งค่าจากโรงงาน
หากพบว่าหูฟัง T2 ของคุณทำงานผิดปกติหรือคุณเพียงต้องการคืนค่าเป็นการตั้งค่าจากโรงงาน คุณสามารถทำการรีเซ็ตได้โดยการใส่หูฟังกลับเข้าสู่เคสชาร์จและกดปุ่มที่ด้านล่างของเคสชาร์จเป็นเวลา 5 วินาที เมื่อแสงไฟ LED ที่เคสชาร์จเป็นสีขาวและกะพริบสองครั้งแสดงว่าการคืนค่าเป็นการตั้งค่าจากโรงงานสำเร็จ
คุณสามารถจับคู่หูฟัง T2 กับอุปกรณ์ของคุณได้อีกครั้ง
Sudio T2 จะเข้าสู่โหมดการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเปิดเคสชาร์จ การเชื่อมต่อ T2 กับอุปกรณ์ครั้งแรก คุณจะได้ยินเสียง 🔈 On ตามด้วย 🔈 Ready to pair, find your Sudio product in the Bluetooth list of your device จากนั้นคุณสามารถเลือกที่อุปกรณ์ของคุณเพื่อเชื่อมต่อ
⚠️ บรรจุภัณฑ์ของ Sudio T2 มีแผ่นใสหุ้มบริเวณการเชื่อมต่อแผ่นชาร์จระหว่างตัวหูฟังและเคสชาร์จ กรุณานำแผ่นใสที่หุ้มอยู่ออกก่อนการเปิดใช้งานหูฟัง
จับคู่ T2 กับอุปกรณ์ของคุณ
- นำตัวหูฟังออกจากเคสชาร์จและสวมหูฟังเข้าที่หูของคุณ
- เปิดการตั้งค่าบลูทูธจากอุปกรณ์ของคุณ แสงไฟ LED บนหูฟัง T2 จะปรากฏเป็นสีขาวและกะพริบขณะที่หูฟังหาอุปกรณ์เพื่อจับคู่
- สำหรับอุปกรณ์ระบบ iOS (iPhone), เปิดแอพพลิเคชั่นการตั้งค่า และเลือกที่การตั้งค่าบลูทูธ
- สำหรับอุปกรณ์ระบบ Android, เปิดแอพพลิเคชั่นการตั้งค่า จากนั้นเลือกที่การตั้งค่าการเชื่อมต่อ และเลือกบลูทูธ
- สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ Windows 10, เลือกกดที่ปุ่ม Start จากนั้นเลือกที่การตั้งค่า ตามด้วยการตั้งค่าอุปกรณ์ และเลือกบลูทูธและอุปกรณ์อื่นๆ
- สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ macOS, ไปที่แอพพลิเคชั่น System Preferences และเลือกที่การตั้งค่าบลูทูธ
- ค้นหาและเลือก Sudio T2 จากรายชื่ออุปกรณ์การเชื่อมต่อบลูทูธ
- เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ แสงไฟ LED จะปรากฏเป็นสีส้มและกะพริบสองครั้ง ตามด้วยเสียง 🔈 Connected
หากอุปกรณ์ของคุณเคยเชื่อมต่อกับหูฟัง T2 ก่อนหน้านี้แล้ว คุณสามารถนำหูฟังออกจากเคสชาร์จและจากนั้นหูฟังจะทำการเชื่อมต่ออัตโนมัติ ตราบเท่าที่อุปกรณ์ของคุณเปิดสัญญาณบลูทูธอยู่และ T2 ไม่ได้เชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์อื่นล่าสุดของคุณ
ระบบและอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อได้
T2 ใช้การเชื่อมต่อบลูทูธ version 5.2 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท อุปกรณ์ที่จับคู่กับหูฟังไม่จำเป็นต้องมีบลูทูธที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน แต่อุปกรณ์ที่มีรุ่นบลูทูธใกล้เคียงกับหูฟังอาจสามารถเชื่อมต่อได้ดีกว่า
สัญาณรบกวน
อุปกรณ์ไร้สายบางชนิดอาจรบกวนสัญญาณของกันและกัน เช่น เราเตอร์ WiFi, สมาร์ทวอทช์, อุปกรณ์บลูทูธอื่นๆ เป็นต้น หากอุปกรณ์เหล่านี้ทำงานภายในความถี่เดียวกัน คุณอาจประสบปัญหาจากการรบกวน เช่น เสียงตกและการทำงานผิดพลาด วิธีที่ง่ายที่สุดในการค้นหาสาเหตุของการรบกวนคือ การจำกัดจำนวนของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลักของคุณพร้อมกัน หรือนำ T2 และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อออกนอกบริเวณที่คุณอยู่เพื่อดูว่าการรบกวนนั้นหายไปหรือไม่
T2 อาจอยู่ห่างจากอุปกรณ์ที่จับคู่ได้สูงสุด 10 เมตร (32 ฟุต) แต่การเชื่อมต่ออาจขาดได้หากถูกบล็อกโดยผนังหรือวัตถุที่คล้ายคลึงกัน
จับคู่กับอุปกรณ์หลายเครื่อง
T2 สามารถจดจำอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่อง และจะจับคู่โดยอัตโนมัติกับอุปกรณ์ที่ใช้ล่าสุด ในกรณีส่วนใหญ่ คุณสามารถสลับระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยเลือก Sudio T2 ในรายการ Bluetooth ซึ่งจะจับคู่กับอุปกรณ์นั้นแทน อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์บางอย่างจำเป็นต้องถอด T2 ออกจากอุปกรณ์ก่อนหน้าทั้งหมดก่อนจึงจะจับคู่ได้ T2 ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันได้ เช่น แล็ปท็อปและสมาร์ทโฟนพร้อมกัน
T2 มีปุ่มควบคุมแบบใช้นิ้วสัมผัสบนหูฟังแต่ละข้างที่สามารถใช้ควบคุมและสั่งงานบนอุปกรณ์ที่คุณเชื่อมต่อได้
การสั่งเล่น เพลง/วีดีโอ
- สัมผัสที่ปุ่ม หนึ่งครั้ง ที่ข้างใดข้างหนึ่งของหูฟัง (ซ้ายหรือขวา) เพื่อสั่งเล่นหรือหยุด
- สัมผัสที่ปุ่ม สองครั้ง ที่หูฟังข้างซ้ายเพื่อสั่งเล่นย้อนหลัง
- สัมผัสที่ปุ่ม สองครั้ง ที่หูฟังข้างขวาเพื่อสั่งเล่นไปข้างหน้า
- สัมผัสที่ปุ่ม สามครั้ง ที่หูฟังข้างซ้ายเพื่อลดระดับเสียง
- สัมผัสที่ปุ่ม สามครั้ง ที่หูฟังข้างขวาเพื่อเพิ่มระดับเสียง
การรับโทรศัพท์
- สัมผัสที่ปุ่ม หนึ่งครั้ง ที่ข้างใดข้างหนึ่งของหูฟัง (ซ้ายหรือขวา) เพื่อรับสายโทรศัพท์
- สัมผัสที่ปุ่ม (ค้างไว้) นานสามวินาที ที่ข้างใดข้างหนึ่งของหูฟัง (ซ้ายหรือขวา) เพื่อปฏิเสธสายโทรศัพท์*
*การหยุดการสนทนาบนทางโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ผ่านปุ่มสัมผัสของหูฟังในขณะที่ใช้ซอฟต์แวร์การประชุมของบริษัทอื่นเนื่องจากโปรโตคอลซอฟต์แวร์ต่างกัน
โหมดตัดเสียงรบกวนภายนอกแบบแอ็คทีฟและโหมดการฟังเสียงภายนอก
- สัมผัสที่ปุ่ม (ค้างไว้) นานสองวินาที ที่ข้างใดข้างหนึ่งของหูฟัง (ซ้ายหรือขวา) เพื่อสลับระหว่างโหมดเป็นกลาง โหมดตัดเสียงรบกวนภายนอกแบบแอ็คทีฟ และโหมดการฟังเสียงภายนอก
การเปิด/ปิดหูฟัง
T2 เปิด/ปิดหูฟังโดยอัตโนมัติเมื่อนำตัวหูฟังเข้าและออกจากเคสชาร์จ อย่างไรก็ตามคุณสามารถควบคุมการเปิด/ปิดหูฟังได้โดยไม่ใช้เคสชาร์จ
- สัมผัสที่ปุ่ม (ค้างไว้) นานห้าวินาที ที่ข้างใดข้างหนึ่งของหูฟัง (ซ้ายหรือขวา) เพื่อเริ่มการใช้งาน (ของหูฟังข้างนั้น)
- สัมผัสที่ปุ่ม (ค้างไว้) นานห้าวินาที ที่ข้างใดข้างหนึ่งของหูฟัง เพื่อสิ้นสุดการใช้งาน (ของหูฟังทั้งสองข้าง)
หากหูฟัง T2 ของคุณเริ่มทำงานผิดปกติ คุณสามารถทำการคืนค่า Sudio T2 เป็นการตั้งค่าจากโรงงานได้ ซึ่งการดำเนินการนี้จะรีเซ็ตการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่จับคู่ของคุณ รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างหูฟังเอียร์บัดทั้งสองข้าง
- ใส่หูฟังเอียร์บัดกลับเข้าไปในเคสชาร์จแล้วเปิดฝาเคสชาร์จไว้
- กดปุ่มรีเซ็ตที่ด้านล่างของเคสค้างไว้ 5 วินาที
- การรีเซ็ตเป็นค่าจากโรงงานจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อไฟ LED ที่ด้านหลังของเคสกะพริบเป็นสีขาวสองครั้ง
- ปิดฝาเคสชาร์จ กรุณารอ 1-2 นาทีก่อนใช้หูฟังอีกครั้ง
เมื่อคุณเริ่มใช้หูฟังเอียร์บัดอีกครั้งและได้ยินเสียง 🔈 Ready to pair คุณสามารถค้นกาอุปกรณ์ Sudio ในการตั้งค่าบลูธูทบนอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นคุณสามารถดำเนินการต่อเพื่อจับคู่กับอุปกรณ์ของคุณ
T2 มีแบตเตอรี่ในตัวทั้งสิ้นสามก้อน ก้อนที่หนึ่งอยู่ในเคสชาร์จและที่เหลือยู่ในเอียร์บัดแต่ละข้าง แบตเตอรี่ในเคสชาร์จใช้สำหรับการชาร์จตัวหูฟังเอียร์บัด ในขณะที่สาย USB-C ที่มากับบรรจุภัณฑ์นั้นใช้สำหรับการชาร์จตัวเคส
ก่อนใช้หูฟัง T2 ของคุณเป็นครั้งแรก
⚠️ Sudio T2 มาพร้อมกับฟิล์มป้องกันที่ครอบคลุมขั้วต่อการชาร์จระหว่างตัวหูฟังเอียร์บัดและเคสชาร์จ กรุณาถอดฟิล์มออกเพื่อเปิดใช้งานหูฟังเอียร์บัด
การชาร์จและระยะเวลาการใช้งาน
ตัวหูฟังเอียร์บัดสามารถใช้งานได้ประมาณ 7.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (6.5 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ) โดยสามารถใช้ได้เวลารวมสูงสุด 35 ชั่วโมงก่อนที่จะต้องชาร์จตัวเคส
แบตเตอรี่แต่ละก้อนใช้เวลาประมาณ 60 นาทีในการชาร์จจนเต็ม แต่อย่างไรก็ตาม T2 รองรับการชาร์จแบบรวดเร็ว ที่ให้เวลาเล่นเพิ่ม 2 ชั่วโมงหลังจากชาร์จเพิ่ม 10 นาที
วิธีการชาร์จ
เคสชาร์จ T2 สามารถชาร์จได้ด้วยสาย USB-C เท่านั้นและไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย เราขอแนะนำให้ใช้สายจาก Sudio ที่รวมอยู่ในบรรจุภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม สาย USB -C ของบริษัทอื่นอาจใช้งานร่วมกันได้เช่นกัน
การดูค่าระดับของแบตเตอรี่
แสงไฟ LED สามดวงที่บ่งบอกถึงระดับของแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ แสงไฟของเคสชาร์จอยู่ที่ด้านหลังของตัวเคส ถัดจากบริเวณการเชื่อมต่อสายชาร์จ แสงไฟของหูฟังเอียร์บัดอยู่ที่ใต้ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส
แสงไฟ LED จะสว่างขึ้น เมื่อนำหูฟังเอียร์บัดดข้าและออกจากเคสชาร์จ และเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 25%
เมื่อเสียบสายชาร์จเข้ากับเคส สีของแสงที่ระบุระดับของแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่จะปรากฏขึ้นเป็นเวลา 5 วินาที ตามด้วยไฟกะพริบแสดงว่าเคสกำลังชาร์จอยู่
ในบางกรณี คุณสามารถอ่านระดับแบตเตอรี่ในโทรศัพท์ได้ เช่น อุปกรณ์ iPhone หรือ Android ระดับที่แสดงคือระดับของตัวหูฟังเอียร์บัด T2 ไม่ใช่ระดับของเคสชาร์จ
ตัวหูฟังเอียร์บัด
- แสงสีขาว: แบตเตอรี่คงเหลือ 26-100%
- แสงสีส้ม: แบตเตอรี่คงเหลือ 0-25%
เคสชาร์จ (เมื่อไม่เชื่อมต่อกับสายชาร์จ)
- แสงสีขาว: แบตเตอรี่คงเหลือ 26-100%
- แสงสีส้ม: แบตเตอรี่คงเหลือ 0-25%
เคสชาร์จ (เมื่อเชื่อมต่อกับสายชาร์จ)
- แสงสีขาว (นิ่ง): ชาร์จเต็ม 100%
- แสงสีขาว (กะพริบ): กำลังชาร์จที่ปริมาณ 26-99%
- แสงสีส้ม: กำลังชาร์จที่ปริมาณ 0-25%
Sudio T2 ได้ผ่านการวิจัยและทดสอบอย่างกว้างขวางเพื่อผลลัพธ์ในการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่ให้ความสบายตลอดวันและเหมาะสำหรับการฟังเป็นเวลานาน
เพื่อการสวมใส่หูฟังเอียร์บัดที่พอดีที่สุดกับหูของคุณ โปรดสวมหูฟังเอียร์บัด โดยให้ปุ่มสัมผัสหันออกด้านนอกแล้วบิดเล็กน้อยเพื่อให้ตัวหูฟังเอียร์บัดเข้าที่กับช่องหู
T2 มาพร้อมกับจุกหูฟังซิลิโคนแบบเปลี่ยนได้สี่ขนาดในขนาด XS, S, M และ L โดยจุกหูฟังขนาด M คือจุกหูฟังที่เราใส่ไว้กับหูฟังเมื่อคุณเปิดบรรุภัณฑ์ครั้งแรก หากจำเป็น คุณสามารถถอดเปลี่ยนจุกหูฟังเหล่านี้ เพื่อหาขนาดที่พอดีกับหูของคุณที่สุด
การทำความสะอาดหูฟังของคุณเป็นประจำจะช่วยให้คุณสามารถใช้หูฟังถึงประสิทธิภาพเสียงที่ดีที่สุด และป้องกันไม่ให้หูฟังเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่คาดไว้
Sudio T2 ประกอบด้วยจุกหูฟังซิลิโคนที่มึตาข่ายในตัว ช่วยป้องเอียร์บัดจากสิ่งสกปรกและเศษฝุ่นขาดใหญ่ (รวมถึงขี้หู) และเพิ่มความสบายในการสวมใส่ จุกหูฟังเหล่านี้สามารถถอดออกจากเอียร์บัดและทำความสะอาดด้วยน้ำหรือสำลีก้านได้ โปรดหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนล้างทำความสะอาดเนื่องจากอาจทำให้ขนาดและรูปร่างของจุกหูฟังบิดเบี้ยวได้
ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เพียงเล็กน้อยในการทำความสะอาดตัวเอียร์บัดและ/หรือเคสชาร์จ คุณสามารถใช้แปรงอ่อนหรือสำลีพันก้านทำความสะอาดภายในเคสอย่างอ่อนโยน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อขั้วชาร์จ (หมุดทองแดง) แม้ว่าเอียร์บัดและเคสชาร์จ T2 จะกันเหงื่อและน้ำกระเซ็น แต่การมีความชื้นสูงอาจทำเกิดความเสียหายถาวรได้
Psst, เรามีชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดหูฟัง Sudio Care Kit ที่เหมาะสมกับการใช้รักษาและทำความสะอาดหูฟัง พร้อมให้คุณใช้กับหูฟัง Sudio ของคุณ!
โปรดคำนึงถึงระยะเวลาการใช้หูฟังที่เมื่อเวลาผ่านไปสีของหูฟังอาจจางลงได้ กรณีนี้เกิดขึ้นบ่อยที่สุดหากตัวหูฟังหรือกล่องชาร์จยังคงสัมผัสกับพื้นผิวหรือวัสดุที่สกปรกเป็นระยะเวลานาน
T2 มีโหมดเสียงสามโหมดที่ให้คุณเลือกปรับได้ตามความต้องการ โดยมีโหมดทั้งสาม ได้แก่ โหมด Active Noise Cancellation (ANC), โหมด Transparency และโหมด Normal (ปิด)
โหมด Active Noise Cancellation (ANC) ใน T2 ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก ช่วยให้คุณได้ดื่มดำไปกับโลกส่วนตัวของคุณได้อย่างเต็มที่
โหมด Transparency ทำงานในทางตรงกันข้าม โดยหูฟังจะขยายเสียงในพื้นหลังแทนให้ดังขึ้น เพื่อที่คุณจะสามารถรับรู้เสียงรอบข้าง ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถตื่นตัวต่อสิ่งรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟังเอียร์บัดออก และได้ยินเสียงของคุณเองขณะคุยโทรศัพท์
วิธีการสลับระหว่างโหมดต่างๆ
ตัวหูฟังเอียร์บัดจะอยู่ในโหมด Normal (ปิด) โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งเสียงพื้นหลังจะไม่ถูกลดลงหรือขยายให้ดังขึ้น เมื่อกดปุ่มควบคุมแบบสัมผัสค้างไว้ 2 วินาทีบนหูฟังเอียร์บัดข้างใดข้างหนึ่ง (ซ้ายหรือขวา) โหมดจะวนไปมาระหว่าง Normal, Active Noise Cancellation, Transparency แล้วกลับสู่โหมด Normal ตามลำดับ
การตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) ทำงานอย่างไร?
กลไกเบื้องหลังของระบบการตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ มาจากการติดตั้งไมโครโฟนในตัวหูฟัง T2 ไมโครโฟตัวนั้นจะคอยฟังเสียงภายนอกหูฟัง ในขณะที่ลำโพงส่งเสียงเดียวกันกลับเพื่อตัดเสียงนั้นออกภายในหูฟัง ซึ่งตัดเสียงรบกวนจากภายนอกเกือบทั้งหมด ทั้งนี่ ANC ในหูฟัง T2 ยังใช้เทคโนโลยี Feed Forward ซึ่งใช้ไมโครโฟนที่ด้านนอกของเอียร์บัดในการส่งต่อเสียงรบกวนไปยังโปรเซสเซอร์ภายใน
เทคโนโลยี Feed Forward ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนความถี่ต่ำแบบคงที่ เช่น ในการขนส่ง (รถยนต์ การขนส่งสาธารณะ หรือเครื่องบิน) แต่อย่างไรก็ตาม คุณอาจไม่เห็นความแตกต่างมากนักกับเสียงความถี่สูง (เช่น ผู้คนกำลังพูด) หรือหากเสียงนั้นไม่เป็นเสียงสภาพแวดล้อมที่ปกติ
T2 มีไมโครโฟนแบบบีมฟอร์มมิ่งข้างละสองตัวสำหรับการพูดคุย ไมโครโฟนหนึ่งตัวหันตรงไปที่ปากของคุณและอีกไมโครโฟนหนึ่งหันไปในทิศทางตรงกันข้าม T2 ฟังอินพุตทั้งสอง เปรียบเทียบการหน่วงเวลาและหาเสียงที่ต้องการ (เสียงของคุณ) และสัญญาณรบกวนที่ไม่ต้องการ (เสียงรอบข้าง) ส่งผลให้เสียงพูดของคุณคมชัดยิ่งขึ้นและคุมเสียงรบกวนจากภายนอกให้วามดังลดลง
คุณสามารถใช้ตัวหูฟังเอียร์บัด T2 ทีละข้างได้ ทั้งสำหรับการเล่นเพลงและการโทร หูฟังเอียร์บัดทั้งสองข้างมีองค์ประกอบที่เหมือนกัน (ทั้งลำโพงและไมโครโฟน) ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้หูฟังเอียร์บัดข้างซ้ายหรือขวาได้ตามต้องการ
ควรชาร์จหูฟังเอียร์บัดทั้งสองข้างให้เต็มหลังจากใช้งานแยกกันเพื่อรักษาระดับแบตเตอรี่เท่าเดิม
T2 ไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สายผ่านระบบการชาร์จเทคโนโลยี Q1 หรือเทียบเท่า คุณสามารถชาร์จ T2 ของคุณได้โดยการเชื่อมต่อสาย USB-C ที่เคสชาร์จของหูฟัง และเชื่อมต่อทางอะแดปเตอร์ปลั๊กไฟ หรือทางอะแดปเตอร์ USB-port
เราแนะนำให้ใช้สายชาร์จจาก Sudio ที่มาพร้อมกับหูฟังในการชาร์จ แต่อย่างไรก็ตามคุณอาจสามารถใช้สายชาร์จ USB-C จากบริษัทอื่นเช่นกัน
คุณสามารถสแกน QR code ที่ด้านในของฝาเคสชาร์จ T2 เพื่อแสดงหมายเลขซีเรียลประจำเครื่อง
โดยการสแกนรหัสด้วยกล้องของสมาร์ทโฟนของคุณหรือด้วยเครื่องสแกนรหัส QR หมายเลขซีเรียล 12 หลักจะปรากฏบนหน้าจอ
คุณต้องระบุหมายเลขซีเรียลเมื่อคุณลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ของคุณกับ Sudio Sphere และใช้ในกระบวนการเคลมการรับประกัน
หากคุณไม่สามารถสแกนเพื่อรับหมายเลขซีเรียลได้ คุณสามารถพบที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้น
เมื่อคุณทำการเชื่อมต่อหูฟัง Sudio T2 กับอุปกรณ์ของคุณ, คุณอาจพบข้อความ "An app is needed to use this device" (อุปกรณ์ต้องการแอพพลิเคชั่นเสริมเพื่อเชื่อมต่อ) ปรากฏขึ้น ซึ่งปิดกั้นการเชื่อมต่อของหูฟังกับอุปกรณ์ของคุณ
อย่างไรก็ตาม Sudio T2 ไม่ต้องใช้แอพพลิเคชั่นเสริมเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณผ่านสัญญาณบลูทูธ
ตรวจสอบอุปกรณ์ที่เลือกเชื่อมต่อ
ในอุปกรณ์บางประเภท คุณอาจพบทั้ง Sudio T2 และ Sudio T2 BLE ในรายชื่อการจับคู่อุปกรณ์บลูทูธ ชื่ออุปกรณ์ที่ถูกต้องและคุณควรเลือกจับคู่คือ Sudio T2 ไม่ใช่ Sudio T2 BLE
ตัวเลือก Sudio T2 BLE มักปรากฏขึ้นเนื่องจากแคชที่จัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ของคุณก่อนหน้านี้ หรือเพราะ T2 ยังไม่พร้อมจับคู่
หาก Sudio T2 ยังไม่ปรากฏขึ้นในรายชื่ออุปกรณ์บลูทูธของคุณขณะทำการจับคู่ ทางเราแนะนำให้คุณทำการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานn ที่หูฟัง กรุณาเปิดฝาเคสชารร์จเพื่อเข้าสู่โหมดจับคู่