Sudio Nio จะเปิดการใช้งานอัตโนมัตเมื่อนำหูฟังออกจากเคสชาร์จ และจะปิดการใช้งานอัตโนมัตเมื่อนำหูฟังใส่กลับเข้าไปในเคสชาร์จ คุณสามารถปิดหูฟังอีกวิธีหนึ่งโดยการกดปุ่มสัมผัสค้างไว้ 6 วินาที จนกว่าจะได้ยินเสียง “power off”
ในการที่จะเปิดใช้งานอีกครั้ง ให้นำหูฟังใส่กลับเข้าไปในเคสชาร์จ แล้วนำออกมาอีกครั้ง
คำแนะนำในการใช้ระบบควบคุมแบบสัมผัสของ Sudio Nio มีดังนี้:
ควบคุมการฟังเพลง
แตะหนึ่งครั้ง(ซ้าย/ขวา): หยุดหรือเล่นเพลง
แตะสองครั้งที่หูฟังทางฝั่งขวา: เล่นเพลงถัดไป
แตะสองครั้งที่หูฟังทางฝั่งซ้าย: เล่นเพลงก่อนหน้านี้
แตะสามครั้งที่หูฟังทางฝั่งขวา: เพิ่มระดับเสียง
แตะสามครั้งที่หูฟังทางฝั่งซ้าย: ลดระดับเสียง
ควบคุมการโทร
แตะครั้งเดียว(ซ้าย/ขวา): รับสายโทรศัพท์
แตะค้างไว้ 2 วินาที(ซ้าย/ขวา): ตัดสายโทรศัพท์
แตะค้างไว้ 3 วินาที: วางสายโทรศัพท์
เปิด/ปิดการใช้งานของหูฟัง
แตะค้างไว้ 6 วินาที(ซ้าย/ขวา): ปิดการใช้งาน
แตะค้างไว้ 3 วินาที(ซ้าย/ขวา): เปิดการใช้งาน
เมื่อคุณต้องการชาร์จตัวหูฟัง ให้ใส่หูฟังลงในเคสชาร์จและตรวจสอบว่าทั้งเคสชาร์จและหูฟังมีไฟกระพริบ การชาร์จหูฟังจาก 0% ใช้เวลาเวลาทั้งหมด 90 นาที อย่างไรก็ตามการชาร์จหูฟังระยะเวลาเพียง 15 นาทีสามารถใช้งานหูฟังได้ถึง 1 ชั่วโมง
ระยะเวลาในการชาร์จหูฟังพร้อมเคสชาร์จจาก 0% จะใช้เวลาทั้งหมด 150 นาที แต่หากทั้งหูฟังและเคสชาร์จไม่มีแบตเตอรี่เหลือเลย คุณควรชาร์จเคสชาร์จก่อน 15 นาที โดยไม่ต้องใส่หูฟังลงไป จากนั้นจึงสามรถนำหูฟังใส่เคสชาร์จเพื่อชาร์จตัวหูฟังได้ ทังนี้เพื่อป้องกัน Sudio Nio จากการรีบูตวนระหว่างการชาร์าจซึ่งจะทำให้หูฟังทำงานไม่ปกติ
ตัวหูฟัง Sudio Nio สามารถใช้กับจุกหูฟังที่ถอดเปลี่ยนได้สี่ขนาด ทำให้คุณสามารถเลือกขนาดที่พอดีกับสรีระหูของคุณ เพื่อยกระดับความสบายในการใช้ Sudio Nio หากคุณพบว่า Sudio Nio สวมใส่ไม่พอดี สามารถลองเปลี่ยนจุกหูฟังขนาดต่างๆที่มีอยู่ในกล่องผลิตภัณฑ์ เพื่อหาขนาดที่พอดีที่สุดกับสรีระหูของคุณ
การทำความสะอาดหูฟังสามารถทำได้โดยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์ น้ำยาทำความสะอาด หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการขัดใดๆนอกจากน้ำสะอาด ตัวอย่างเช่นการใช้แผ่นเช็คทำความสะอาดฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาด Sudio Nio อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสีของหูฟังและเคสชาร์จได้
เทคโนโลยีไมโครโฟนคู่ในตัวหรือ Adaptive dual-microphone เป็นระบบที่คอยตัดเสียงรบกวนจากภายนอกระหว่างการคุยโทรศัพท์
หูฟัง Sudio Nio มีไมโครโฟนในหูฟังข้างละสองตัว ซึ่งรวมทั้งหมดแล้วหูฟัง Nio มีไมโครโฟนสี่ตัว ด้วยเทคโนโลยี adoptive dual-microphone ที่คอยรองรับเสียงรบกวนและปรับเปลี่ยนไมโครโฟนตามสภาพเสียงรอบข้าง ช่วยให้การพูดคุยผ่านหูฟังชัดเจนยิ่งขึ้น
หูฟัง Sudio Nio ผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์มาตรฐานการกันน้ำระดับ 4 ซึ่งหมายความว่า Sudio Nio เป็นหูฟังที่มีความทนทานต่อความชื้น หูฟังที่ได้มาตรฐานระดับนี้สามารถทนฝนที่ตกหนัก, เหงื่อ, และน้ำกระเด็นเป็นบางครั้งได้
IPX คือมาตรฐานสากลที่ได้รับเมื่อผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการควบคุม ซึ่งหูฟัง Sudio Nio ได้ผ่านมาตรฐานความทนเหงื่อ จึงเหมาะสมกับการใช้ระหว่างการออกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามด้วยมาตรฐาน IPX4 ทางเราไม่สามารถรับประกันได้ว่าหูฟังจะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ หลังจากการใช้งานในกิจกรรมเช่น การว่ายน้ำหรือการอาบน้ำ
ในขณะที่หูฟังมีมาตรฐาน IPX4 เคสชาร์จของ Sudio Nio นั้นไม่กันน้ำ หากคุณใช้มือที่เปียกน้ำสัมผัสเคสชาร์จ หรือนำหูฟังที่ยังไม่แห้งดีใส่กลับเข้าไปในเคสชาร์จ อาจทำให้ผลิตภัณฑ์เกิดความเสียหายได้ โปรดตรวจสอบว่าหูฟังแห้งดีแล้วก่อนใส้กลับเข้าไปในเคสชาร์จ หากหูฟังเกิดความเสียหายจากสาเหตุเหล่านี้ สินค้าจะไม่ถือว่าเป็นข้อผิดพลาดทางการผลิตและจะไม่สามารถส่งคืนสินค้าตามข้อตกลงการรับประกันภัยได้
เมื่อหูฟังได้ยืนยังผ่านเสียงว่า “pairing successful” แต่ได้ยินเสียงจากหูฟังเพียงข้างเดียว บ่งบอกว่าหูฟังทั้งสองข้างไม่เชื่อมต่อกัน ซึ่งการทำให้หูฟังทั้งสองข้างเชื่อมต่อกันอีกครั้งนั้น หูฟังทั้งสองข้างต้องนำกลับใส่เข้าไปในเคสชาร์จเป็นระยะเวลา 5 - 10 วินาที จากนั้นนำหูฟังทั้งสองข้างออกจากเคสชาร์จพร้อมกัน หากแก้ไขปัญหาโดยวิธีนี้ไม่สำเร็จ ให้ทำการตั้งค่าข้อมูลจากโรงงาน โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
- ปิดการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไร้สายจากอุปกรณ์ของคุณ
- นำหูฟังทั้งสองข้างใส่กลับเข้าไปในเคสชาร์จและปิดฝาเคสชาร์จ
- เลือก ลืม Sudio Nio ในรายชื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สายของคุณ จากนั้นอุปกรณ์ของคุณจะไม่จับคู่กับหูฟัง Sudio Nio หากหูฟัง Sudio Nio ได้จับคู่กับหลายอุปกรณ์ เลือกลืม Sudio Nio จากรายชื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สายในทุกๆอุปกรณ์ของคุณ
- กดปุ่มรีเซ็ทหูฟังที่ข้างใต้เคสชาร์จ ค้างไว้ 3 วินาที
- เปิดสัญญาณเชื่อมต่อแบบไร้สายจากอุปกรณ์ของคุณ และเลีอกจับคู่กับ Sudio Nio ในรายชื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สาย
หาก Sudio Nio ของคุณทำงานผิดแปลกจากปกติ หรือมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณ โปรดตรวจสอบว่าปัญหาหานั้นได้มีการระบุทางแก้แล้วในหัวข้ออื่นของศูนย์ช่วยเหลือหรือไม่ หากคุณไม่พบบทความระบุถึงวิธีการแก้ไขปัญหานี้ ให้ทำการตั้งค่าข้อมูลจากโรงงานโดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนการตั้งค่าข้อมูลจาก
- ปิดการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไร้สายจากอุปกรณ์ของคุณ
- นำหูฟังทั้งสองข้างใส่กลับเข้าไปในเคสชาร์จและปิดฝาเคสชาร์จ
- เลือก ลืม Sudio Nio ในรายชื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สายของคุณ จากนั้นอุปกรณ์ของคุณจะไม่จับคู่กับหูฟัง Sudio Nio หากหูฟัง Sudio Nio ได้จับคู่กับหลายอุปกรณ์ เลือกลืม Sudio Nio จากรายชื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สายในทุกๆอุปกรณ์ของคุณ
- กดปุ่มรีเซ็ทหูฟังที่ข้างใต้เคสชาร์จ ค้างไว้ 3 วินาที
- เปิดสัญญาณการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไร้สายจากอุปกรณ์ของคุณ และเลีอกจับคู่กับ Sudio Nio ในรายชื่ออุปกรณ์รเชื่อมต่อแบบไร้สาย
มื่อทั้งตัวหูฟังและเคสชาร์จไม่มีแบตเตอรี่เหลืออยู่เลย ขั้นแรกควรชาร์จเคสชาร์จก่อนเพื่อป้องกันการรีบูตวนของหูฟัง Sudio Nio ซึ่งจะทำให้หูฟังทำงานไม่ปกติอีกต่อไป
วิธีการชาร์จหูฟังที่ถูกต้องมีดังนี้
- นำหูฟังออกจากเคสชาร์จ
- ต่อสายชาร์จกับเคสชาร์จ และชาร์จไฟทิ้งไว้ 15 นาที
- นำหูฟังใส่กลับเข้าไปในเคสชาร์จ แล้วปล่อยอุปกรณ์ชาร์จไฟจนเต็ม
คำแนะนำวิธีการเชื่อมต่อ Sudio Nio กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ:
- ไปที่การตั้งค่าการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไร้สายในอุปกรณ์ของคุณ แล้วเปิดการใช้งานการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไร้สาย
- นำหูฟังออกจากเคสชาร์จ
- หูฟัง Sudio Nio จะเปิดการจับคู่ใช้งานอัตโนมัติ จากนั้นกดเลือก “Sudio Nio” ในรายชื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สายของคุณ
- เมื่อ Sudio Nio ได้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณแล้ว ก็พร้อมใช้งานได้
หากต้องการใช้งานหูฟังเพียงข้างเดียว สารถนำเฉพาะหูฟังข้างนั้นออกจากเคสชาร์จเพื่อใช้งานได้
Sudio Nio สามารถจำอุปกรณ์ที่เชื่อเชื่อมต่อได้มากถึง 8 ตัว ซึ่งไม่ต้องทำการเชื่อมต่อใหม่ทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนใช้ระหว่างอุปกรณ์ เมื่อเปิดการใช้งาน Sudio Nio ตัวหูฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อล่าสุดโดยอัตโนมัต
หากจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ก่อนหน้านี้ โปรดตัดการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ปัจจุบัน และเลือกเชื่อมต่อกับ Sudio Nio ในรายชื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สายในอุปกรณ์ที่คุณต้องการจะเชื่อม Sudio Nio มีระบบรับรองการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน แต่สามารถถ่ายทอดเสียงได้จากอุปกรณ์เดียวต่อครั้งเท่านั้น (ระบบยังไม่รับรองการเชื่อมต่อแบบหลายจุด)
แสงไฟ LED บนเคสชาร์จและหูฟังคือสัญญาณบ่งบอกสถานะระดับของแบตเตอรี่ สีของแสงไฟจะเปลี่ยนตามระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่
ระดับแบตเตอรี่ 0% - 25% : แสงไฟเป็นสีเหลือง
ระดับแบตเตอรี่ 26% - 100% : แสงไฟเป็นสีขาว
ดูที่ตัวหูฟัง:
แสงไฟ LED บนหูฟังคือสัญญาณบ่งบอกสถานะระดับของแบตเตอรี่ตัวหูฟัง เมื่อนำหูฟังออกจากเคส ที่ตัวหูฟังจะมีแสงปรากฎขึ้น ซึ่งสามารถตรวจสอบเปอร์เซ็นระดับแบตเตอรี่ได้ผ่านทางอุปกรณ์ของคุณ
สำหรับอุปกรณ์ระบบ iOS สมารถตรวจสอบระดับแบตเตอร์รี่ได้ที่แอปวิดเจ็ตในหน้าโฮม หากคุณไม่มีแอปวิดเจ็ตในหน้าโฮม คุณสามารถตั้งค่าที่หน้าโฮมเพื่อเพิ่มแอปวิดเจ็ตได้
สำหรับอุปกรณ์ระบบ Android ไอคอนแบตเตอรี่จะปรากฎอยู่บนหน้าจอของคุณ หรือคุณสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับตรวจสอบแบตเตอรี่ใดก็ได้ เพื่อเช็คสภาพแบตเตอรี่ของตัวหูฟัง Sudio Nio
ดูที่เคสชาร์จ:
แสงไฟ LED บนเคสชาร์จคือสัญญาณบ่งบอกสถานะระดับของแบตเตอรี่ของเคสชาร์จ แสงไฟจะกระพริบเมื่อนำหูฟังใส่กลับเข้าไปในเคสชาร์จ